วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

E-Mail คืออะไร



E-Mail ย่อมาจาก EIectronic-Mail
       
         คือการส่งข้อความหรือข่าวสารจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลอื่นๆ ผ่านทางคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายเหมือนกับการส่งจดหมาย แต่อยู่ในรูปแบบของสัญญาณข้อมูลที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ โดยเปลี่ยนการนำส่งจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์มาเป็นโปรแกรม และเปลี่ยนจากการใช้เส้นทางจราจรคมนาคมทั่วไปมาเป็นช่องสัญญาณรูปแบบต่างๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะตรงเข้ามาสู่ Mail Box ที่ถูกจัดสรรใน Server ของผู้รับปลายทาง 
      
      ประโยชน์ของ E-Mail
1.รวดเร็ว เชื่อถือได้
2.ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่ง และลดการใช้กระดาษ
3.ลดเวลาในการส่งเอกสารลง เพราะผู้ส่งไม่ต้องเสียเวลาไปส่งเอง หรือรอไปรษณีย์ไปส่งให้
4.ผู้ส่งสามารถส่งเอกสารได้ตลอดไม่จำกัดเวลา หรือระยะทางในการส่ง ในขณะที่ผู้อ่านก็สามารถเปิดอ่านเอกสารได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
5.สามารถส่งต่อกันได้สะดวก และผู้ส่งสามารถส่งให้ผู้รับได้พร้อมๆกันหลายคนในเวลาเดียวกัน
 
 เราใช้ E-Mail ทำอะไรกัน
        ปัจจุบันนี้ด้วยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก ทำให้ระบบการติดต่อสื่อสารข้อมูลถึงกันสามารถทำได้อย่างง่ายดาย อินเตอร์เน็ตนับเป็นระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีผู้ใช้งานมากกว่า 25 ล้านคน ติดต่อเข้าใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อส่ง E-Mail
        E-Mail นับเป็นทางเลือกใหม่ของการติดต่อสื่อสาร ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีระบบเครือข่าย ทำให้การส่งหรือรับ E-Mail ไม่ว่าผู้ส่งและผู้รับจะอยู่ที่ใด เป็นไปได้ในช่วงเวลาที่สั้นและรวดเร็ว สามารถส่งหรือรับข้อมูลได้ทันที และตลอดเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบ โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะสัมพันธ์กับค่าโทรศัพท์ที่ใช้ และค่าธรรมเนียมในการขอใช้บริการจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
        เราใช้ E-Mail เพื่อส่งข้อมูลที่สามารถจัดเก็บในรูปแบบของแฟ้มข้อมูล (File) คอมพิวเตอร์ได้ทุกประเภท ไม่ว่านั่นจะเป็นเพียงข้อความจดหมายเพื่อพูดคุยธรรมดาหรือเป็นแฟ้มข้อมูลรูปภาพ รวมทั้งยังสามารถแนบแฟ้มข้อมูลเอกสาร หรือข้อมูลต่างๆได้อีกด้วย
        ในเชิงธุรกิจ E-Mail จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการติดต่อสื่อสาร นอกจากนี้ยังสามารถส่งจดหมายฉบับเดียวกันถึงผู้รับปลายทางได้เป็นจำนวนมาก ทำให้มีการนำ E-Mail มาใช้เพื่อการโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการได้อีกด้วย


 
มาทำความรู้จักและเรียนรู้วิธีใช้งาน E-Mail กัน

         ในการใช้งาน E-Mail จำเป็นจะต้องมี E-Mail Address เสียก่อน โดย E-Mail Address จะเป็นเหมือนที่อยู่ทางอินเตอร์เน็ตของแต่ละคน มักจะแทนด้วยชื่อหรือรหัสที่ใช้แทนตัว แล้วตามด้วยชื่อของ Mail Server ที่ให้บริการ เช่น somchai@isp.co.th โดยทั่วไป E-Mail Address จะประกอบด้วย
        - User ID ใช้เป็นชื่อหรือรหัสประจำตัวของผู้ใช้บริการแต่ละคน
        - เครื่องหมาย @
        - Domain Name ของ Mail Server ที่ใช้บริการ

เมื่อต้องการส่ง E-Mail มีส่วนประกอบสำคัญที่ต้องให้รายละเอียด คือ

 
1. To: ระบุ E-Mail Address ของผู้รับปลายทาง
2. Subject: ใส่หัวเรื่องย่อๆของเนื้อหา
            3. CC (Carbon Copy): เป็นการระบุ E-Mail Address ของผู้ที่เราต้องการให้ได้รับสำเนาของจดหมายฉบับนี้ด้วย
4. BCC (Blind Carbon Copy): เช่นเดียวกับ CC แต่ทำให้ผู้รับไม่ทราบว่าเราต้องการ ส่งใคร
            5. Attachment: เราสามารถแนบไฟล์ไปกับการส่ง E-Mail ด้วยก็ได้
            6. Body: เป็นเนื้อหาข้อความของจดหมาย
 
 
ข้อพิจารณาในการนำความรู้ประยุกต์ไปใช้
 
เราจะหา E-Mail มาใช้ได้จากไหน
1. ติดต่อขอใช้พื้นที่จากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานอยู่
2. ในปัจจุบันจะมีบริการ Web Mail ซึ่งเป็นบริการ E-Mail โดยผ่านระบบ World Wide Web นั่นคือ ผู้ใช้จะได้รับ Mail Box ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งบนเครื่อง Server ของผู้ให้บริการ และการรับส่ง E-Mail จะกระทำโดยผ่านทาง Web Browser บริการ Web Mail นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนมากไม่คิดค่าใช้จ่าย (แต่จะแลกเปลี่ยนโดยมีโฆษณาปรากฏในขณะใช้งาน) และยังสามารถอ่าน E-Mail ได้จากทุกที่ที่สามารถเข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้


ตัวอย่าง e-mail
 
 
 
 
              
แหล่งอ้างอิง  วาสนา สุขกระสานดี. โลกของคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สายันห์ เลี้ยงบุญเลิศชัย. แรกเริ่มเรียนรู้เรื่อง Internet. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
(สืบค้นวันที่ 14/02/2556 )




 






2 ความคิดเห็น:

  1. e-mail ทำให้การติดต่อสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เร็วกว่า สะดวกสะบาย สามารถส่งงานผ่านทาง e-mail ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ตอบลบ
  2. เป็นการใช้รับส่งข้อมูลไปยังบุคคลที่เราต้องการ สะดวกในการส่งข้อมูล ข่าวสาร รวดเร็วและฉับไวมากค่ะ

    ตอบลบ